ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีและผลิตภัณฑ์ทางเกษตร
ปุ๋ยค้างคาว....
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับปุ๋ยเคมีเขาเพชร
ปุ๋ยเขาเพชร
เป็นปุ๋ยมูลค้างคาวผสมสารอาหารครบถ้วน ใช้หว่านได้ 1-2 ไร่ ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่ม ใช้ได้กับพืชทุกชนิด และใช้ได้ตลอดอายุพืช บริษัทมีใบรับรองสูตรปุ๋ย การผลิต ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้
ข้อดีของปุ๋ยเขาเพชร (ปุ๋ยมูลค้างคาว)
1. มีความเข้มข้นของธาตุอาหารสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น
2. มูลค้างคาวช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน
3. ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม เช่น
แคลเซี่ยม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน คลอลีน และโมลิบดินัม เพียงพอต่อความต้องการของพืชโดยทั่วไป
4. มูลค้างคาวมีธาตุฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ ใช้ได้ทั้งในพืชผัก พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอกไม้ประดับ ช่วยในเรื่องของสีสัน รสชาติ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี
ส่วนประกอบสำคัญ
1. มูลค้างคาว70%
มีมูลค้างคาว(กินแมลง) ที่ทับถมมาเป็นปีๆ ของบริษัทอินเตอร์อโกรเทค (ประเทศไทย)จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับสัมปทานถ้ำเขาหน่อ ถ้ำค้างคาวในจังหวัดนครสวรรค์ สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการและพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2. สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น( 20%)
เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก,ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีความว่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้น เหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
1. จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล( 10%)
เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม
อัตราวิธีใช้
ชนิดพืชระยะที่ใช้อัตราการใช้วิธีการใช้นาข้าวระยะแรก 15-30 วันระยะหลัง 50-60 วัน40-80 กก.ต่อไร่40-80 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลงข้าวโพดระยะพร้อมปลูกระยะ 20-25 วัน50-100 กก.ต่อไร่30-40 กก.ต่อไร่โรยรองก้นหลุมพร้อมปลูกโรยตามแนวข้าวโพดส้ม มะนาว มะม่วงเงาะ ทุเรียนมังคุด ลำใย ลิ้นจี่ ลองกอง ฝรั่งชมพู่ องุ่น ปาล์มมีผลแล้วยังไม่มีผล3-5 กก.ต่อต้น/ครั้ง2-3 กก.ต่อต้น/ครั้งหว่านรอบทรงพุ่มหว่านรอบทรงพุ่มยางพารากรีดแล้วต้น,ปลายฝน
ยางเล็ก ต้น,ปลายฝน1-2 กก.ต่อต้น/ครั้ง0.5 กก.ต่อต้น/ครั้งโรยขนานแถว
โรยขนานแถวอ้อย มัน สับปะรดใช้รองพื้นก่อนปลูก
พืชอายุ 1-2 เดือน50-100 กก.ต่อไร่50-100 กก.ต่อไร่โรยในร่องแล้วกลบโรยข้างแถวพริก หอม กระเทียม แตงถั่ว
สตอเบอรี่ใช้รองพื้นระยะให้ผล50-100 กก.ต่อไร่50-100 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลง
หว่านทั่วแปลงผักทุกชนิด ยาสูบใช้รองพื้น50-100 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลง
เป็นปุ๋ยมูลค้างคาวผสมสารอาหารครบถ้วน ใช้หว่านได้ 1-2 ไร่ ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่ม ใช้ได้กับพืชทุกชนิด และใช้ได้ตลอดอายุพืช บริษัทมีใบรับรองสูตรปุ๋ย การผลิต ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้
ข้อดีของปุ๋ยเขาเพชร (ปุ๋ยมูลค้างคาว)
1. มีความเข้มข้นของธาตุอาหารสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น
2. มูลค้างคาวช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน
3. ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม เช่น
แคลเซี่ยม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน คลอลีน และโมลิบดินัม เพียงพอต่อความต้องการของพืชโดยทั่วไป
4. มูลค้างคาวมีธาตุฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ ใช้ได้ทั้งในพืชผัก พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอกไม้ประดับ ช่วยในเรื่องของสีสัน รสชาติ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี
ส่วนประกอบสำคัญ
1. มูลค้างคาว70%
มีมูลค้างคาว(กินแมลง) ที่ทับถมมาเป็นปีๆ ของบริษัทอินเตอร์อโกรเทค (ประเทศไทย)จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับสัมปทานถ้ำเขาหน่อ ถ้ำค้างคาวในจังหวัดนครสวรรค์ สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการและพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2. สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น( 20%)
เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก,ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีความว่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้น เหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
1. จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล( 10%)
เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม
อัตราวิธีใช้
ชนิดพืชระยะที่ใช้อัตราการใช้วิธีการใช้นาข้าวระยะแรก 15-30 วันระยะหลัง 50-60 วัน40-80 กก.ต่อไร่40-80 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลงข้าวโพดระยะพร้อมปลูกระยะ 20-25 วัน50-100 กก.ต่อไร่30-40 กก.ต่อไร่โรยรองก้นหลุมพร้อมปลูกโรยตามแนวข้าวโพดส้ม มะนาว มะม่วงเงาะ ทุเรียนมังคุด ลำใย ลิ้นจี่ ลองกอง ฝรั่งชมพู่ องุ่น ปาล์มมีผลแล้วยังไม่มีผล3-5 กก.ต่อต้น/ครั้ง2-3 กก.ต่อต้น/ครั้งหว่านรอบทรงพุ่มหว่านรอบทรงพุ่มยางพารากรีดแล้วต้น,ปลายฝน
ยางเล็ก ต้น,ปลายฝน1-2 กก.ต่อต้น/ครั้ง0.5 กก.ต่อต้น/ครั้งโรยขนานแถว
โรยขนานแถวอ้อย มัน สับปะรดใช้รองพื้นก่อนปลูก
พืชอายุ 1-2 เดือน50-100 กก.ต่อไร่50-100 กก.ต่อไร่โรยในร่องแล้วกลบโรยข้างแถวพริก หอม กระเทียม แตงถั่ว
สตอเบอรี่ใช้รองพื้นระยะให้ผล50-100 กก.ต่อไร่50-100 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลง
หว่านทั่วแปลงผักทุกชนิด ยาสูบใช้รองพื้น50-100 กก.ต่อไร่หว่านทั่วแปลง
เทคนิคการใช้ปุ๋ยให้เกิดผลผลิตมากขึ้น
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในไม้ผล เช่น ส้ม ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง ทุเรียน เงาะ เป็นต้น
*ระยะยังไม่มีผล ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 2 – 3 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ โตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน
*ระยะมีผลแล้ว ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 3 – 4 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของต้น ทำให้ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ติดดอกดก ติดผลดก ผลใหญ่ รสชาติดี น้ำหนักดี สีสวยสีเข้ม
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในยางพารา
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ช่วงปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว 1,500 กก.ต่อไร่
* หลังจากเมื่อข้าวอายุ 25 – 30 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบแรก ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น ขยายกอ ทำให้ต้นแข็ง ใบตั้ง ต้านทานโรคแมลง และเมื่ออายุข้าวประมาณ 35 – 40
* เมื่ออายุข้าวได้ 60 – 65 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบสอง ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวสมบูรณ์ ในช่วงข้าวตั้งท้องอ่อนๆควรใช้
* ในช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย( หว่านรับรวง( หว่านปุ๋ยรอบสาม )) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 20 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น สะสมอาหารสร้างรวง
สรุปการใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนพืชในนาข้าว
หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ช่วงข้าวอายุ 25 – 30 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่
ครั้งที่ 2 ช่วงข้าวอายุ 60 – 65 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่
ครั้งที่ 3 ช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย อัตรา 20 กก.ต่อไร่
*ระยะยังไม่มีผล ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 2 – 3 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ โตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน
*ระยะมีผลแล้ว ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 3 – 4 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของต้น ทำให้ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ติดดอกดก ติดผลดก ผลใหญ่ รสชาติดี น้ำหนักดี สีสวยสีเข้ม
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในยางพารา
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ช่วงปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว 1,500 กก.ต่อไร่
* หลังจากเมื่อข้าวอายุ 25 – 30 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบแรก ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น ขยายกอ ทำให้ต้นแข็ง ใบตั้ง ต้านทานโรคแมลง และเมื่ออายุข้าวประมาณ 35 – 40
* เมื่ออายุข้าวได้ 60 – 65 วัน ( หว่านปุ๋ยรอบสอง ) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 40 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวสมบูรณ์ ในช่วงข้าวตั้งท้องอ่อนๆควรใช้
* ในช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย( หว่านรับรวง( หว่านปุ๋ยรอบสาม )) หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 20 กก.ต่อไร่ ช่วยบำรุงต้น สะสมอาหารสร้างรวง
สรุปการใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนพืชในนาข้าว
หว่านปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ช่วงข้าวอายุ 25 – 30 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่
ครั้งที่ 2 ช่วงข้าวอายุ 60 – 65 วัน อัตรา 40 กก.ต่อไร่
ครั้งที่ 3 ช่วงข้าวเริ่มออกรวงประปลาย อัตรา 20 กก.ต่อไร่
กำไรและผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้นมหาศาล
สรุปผลจากการใช้ในนาข้าว
1 ราก ทำให้รากยาว ขาวอวบ พืชหาอาหารได้ดีกว่า ทำให้เจริญเติบดตได้ดี
2 แตกกอดี ช่วยเพิ่มการแตกกอ เพิ่มจำนวนต้น รวงที่มากขึ้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
3 เขียว ข้าวเขียวทนเขียวนานกว่าใช้ปุ๋ยเคมี ข้าวเริ่มเขียวพร้อมกัน เขียวเสมอกัน
4 ต้นเขียวใบตั้ง ลำต้นแข็งแรง ข้าวไม่ล้ม ช่วยต้านทานโรคและแมลงได้ดี ช่วยลดค่ายาฆ่าแมลงลงได้
5 ข้าวรวงใหญ่ รวงยาว เมล็ดข้าวแกร่ง ไม่ลีบ น้ำหนักดี ข้าวสุกแก่พร้อมกัน ไม่โดนตัดราคา
6 ขั้วเหนียว ข้าวไม่หลุดร่วงง่าย ลดการสูญเสียผลผลิต ทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
7 ข้าวสุกก่อน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อน ช่วยลดต้นทุนค่าสูบน้ำเข้านา
8 ช่วยปราบหอยเชอรี่ได้ ช่วยลดต้นทุนค่ายาปราบหอย
9 ดินเป็นหล่ม สภาพดินดี มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ ปุ๋ยมูลค้างคาวสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารได้ดีกว่าและนานกว่าปุ๋ยเคมี ทำให้ธาตุอาหารในดินมีมาก สังเกตจากใบธงเขียวยันวันเกี่ยว ช่วยปรับโครงสร้างดิน ฟื้นฟูสภาพดิน ทำให้ดินดีขึ้น
1 ราก ทำให้รากยาว ขาวอวบ พืชหาอาหารได้ดีกว่า ทำให้เจริญเติบดตได้ดี
2 แตกกอดี ช่วยเพิ่มการแตกกอ เพิ่มจำนวนต้น รวงที่มากขึ้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
3 เขียว ข้าวเขียวทนเขียวนานกว่าใช้ปุ๋ยเคมี ข้าวเริ่มเขียวพร้อมกัน เขียวเสมอกัน
4 ต้นเขียวใบตั้ง ลำต้นแข็งแรง ข้าวไม่ล้ม ช่วยต้านทานโรคและแมลงได้ดี ช่วยลดค่ายาฆ่าแมลงลงได้
5 ข้าวรวงใหญ่ รวงยาว เมล็ดข้าวแกร่ง ไม่ลีบ น้ำหนักดี ข้าวสุกแก่พร้อมกัน ไม่โดนตัดราคา
6 ขั้วเหนียว ข้าวไม่หลุดร่วงง่าย ลดการสูญเสียผลผลิต ทำให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
7 ข้าวสุกก่อน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อน ช่วยลดต้นทุนค่าสูบน้ำเข้านา
8 ช่วยปราบหอยเชอรี่ได้ ช่วยลดต้นทุนค่ายาปราบหอย
9 ดินเป็นหล่ม สภาพดินดี มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ ปุ๋ยมูลค้างคาวสามารถปลดปล่อยธาตุอาหารได้ดีกว่าและนานกว่าปุ๋ยเคมี ทำให้ธาตุอาหารในดินมีมาก สังเกตจากใบธงเขียวยันวันเกี่ยว ช่วยปรับโครงสร้างดิน ฟื้นฟูสภาพดิน ทำให้ดินดีขึ้น
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ปุ๋ยค้างคาว
ชื่อสินค้าปุ๋ยเขาเพชร บรรจุขนาด 25 กิโลกรัม
รายละเอียดบรรจุขนาด 25 กิโลกรัม ราคาปกติ540 บาท คุ้มมากถ้าใช้จะได้กำไรกลับคืนมาสองเท่าตัว..
ตันนึงราคา 26000 ทำได้ทั้งไร่ทั้งสวน กำไรกลับมามากกว่าแน่นอน
สนใจติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0864165355 line/whatapp
รายละเอียดบรรจุขนาด 25 กิโลกรัม ราคาปกติ540 บาท คุ้มมากถ้าใช้จะได้กำไรกลับคืนมาสองเท่าตัว..
ตันนึงราคา 26000 ทำได้ทั้งไร่ทั้งสวน กำไรกลับมามากกว่าแน่นอน
สนใจติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0864165355 line/whatapp
|
สินค้าอื่นๆ เกี่ยวกับการเกษตร |
วีดีโอผลลัพธ์จากชาวเกษตรกรชาวสวนชาวนาชาวไร่.......
|
|